เหล็กเพลา คืออะไร? เลือกขนาดอย่างไรให้เหมาะกับงานเครื่องจักรและโครงสร้าง

เหล็กเพลา คืออะไร? เลือกขนาดอย่างไรให้เหมาะกับงานเครื่องจักรและโครงสร้าง

ประเภทและวิธีเลือกเหล็กเพลาให้เหมาะกับงานเครื่องจักรและโครงสร้าง

เหล็กเพลา คืออะไร? เลือกขนาดอย่างไรให้เหมาะกับงานเครื่องจักรและโครงสร้าง

ในงานอุตสาหกรรมก่อสร้างและการผลิตเครื่องจักร เหล็กเพลา ถือเป็นหนึ่งในวัสดุสำคัญที่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีความแข็งแรง ทนทาน สามารถรับแรงกด แรงบิด และแรงดึงได้เป็นอย่างดี การเลือกใช้เหล็กเพลาให้เหมาะสมกับงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นงานโครงสร้างอาคาร โรงงาน เครื่องจักร หรือชิ้นส่วนอุตสาหกรรมต่าง ๆ หากเลือกขนาดและเกรดไม่เหมาะสม อาจทำให้อายุการใช้งานสั้นลง หรือเกิดปัญหาด้านความปลอดภัยได้

เหล็กเพลา คืออะไร?

เหล็กเพลา (Round Bar / Steel Shaft) คือ เหล็กรูปพรรณชนิดหนึ่งที่มีหน้าตัดเป็นทรงกลม ผลิตจากเหล็กกล้าคุณภาพสูง ผ่านกระบวนการรีดร้อนหรือรีดเย็นจนได้ขนาดที่ต้องการ มักมีผิวเรียบตรงและได้มาตรฐาน ทำให้สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย เช่น

  • งานโครงสร้างเหล็ก
  • งานเครื่องจักรกล
  • งานเฟอร์นิเจอร์เหล็ก
  • งานก่อสร้างที่ต้องการความแข็งแรง

ประเภทของเหล็กเพลา

  1. เหล็กเพลากลม (Round Bar)
    เหล็กเพลากลมถือเป็นชนิดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอุตสาหกรรม เนื่องจากใช้งานได้หลากหลายและเหมาะกับงานที่ต้องมีการหมุนหรือการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
    คุณสมบัติและจุดเด่น

    • หน้าตัดเป็นวงกลม ทำให้สามารถกระจายแรงได้รอบทิศทาง
    • ทนแรงบิดและแรงหมุนได้ดี เหมาะกับการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อน
    • สามารถขึ้นรูปและกลึง (Machining) ได้ง่าย ผิวงานออกมาเรียบและแม่นยำ
    • มีให้เลือกทั้ง รีดร้อน (Hot Rolled) ที่เน้นความแข็งแรง และ รีดเย็น (Cold Drawn) ที่เน้นความเรียบตรงและขนาดแม่นยำ

    การใช้งานที่นิยม

    • เพลาขับ (Drive Shaft) และเพลาเครื่องจักร
    • เฟือง (Gear) และลูกปืน (Bearing)
    • โครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงและทนแรงบิด เช่น เครื่องจักรกลหนัก
    • งานชิ้นส่วนยานยนต์ เช่น สลักเกลียว น็อต และชิ้นส่วนกลึงพิเศษ

    ขนาดที่ใช้บ่อย

    • เส้นผ่านศูนย์กลาง 6 มม. – 300 มม. ความยาวมาตรฐาน 6 เมตร
    • หากต้องการงานละเอียด สามารถสั่งตัดตามขนาดได้
  2. เหล็กเพลาสี่เหลี่ยม (Square Bar)
    เหล็กเพลาสี่เหลี่ยมแม้จะไม่แพร่หลายเท่าเพลากลม แต่ก็มีบทบาทสำคัญในงานก่อสร้างและงานโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงเฉพาะด้าน
    คุณสมบัติและจุดเด่น

    • หน้าตัดเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ทำให้รับแรงกดและแรงดึงในแนวตรงได้ดี
    • มีความแข็งแรงและมั่นคงสูง ใช้เป็นส่วนประกอบโครงสร้างได้ดี
    • สามารถเชื่อม ดัด และตัดได้ง่าย
    • ให้ความสวยงามและความแข็งแรงในงานตกแต่ง

    การใช้งานที่นิยม

    • เสาโครงสร้าง และโครงเหล็กในงานก่อสร้าง
    • งานรั้ว ประตู และเหล็กดัด
    • งานเฟอร์นิเจอร์เหล็กที่ต้องการความแข็งแรง เช่น โต๊ะ เก้าอี้ โครงเหล็กในโรงงาน
    • งานตกแต่งสถาปัตยกรรม เช่น ราวเหล็กและชิ้นงานที่โชว์ผิว

    ขนาดที่ใช้บ่อย

    • เริ่มตั้งแต่ 12×12 มม., 25×25 มม., 50×50 มม. หรือใหญ่กว่านั้น
    • ความยาวมาตรฐาน 6 เมตร เช่นเดียวกับเพลากลม

ตารางเปรียบเทียบเพลากลม vs เพลาสี่เหลี่ยม

ประเภทเหล็กเพลา จุดเด่น งานที่เหมาะสม
เพลากลม (Round Bar) รับแรงบิดได้ดี เหมาะกับการหมุนหรือกลึงงาน เพลาขับ, เฟือง, ลูกปืน, ชิ้นส่วนเครื่องจักร
เพลาสี่เหลี่ยม (Square Bar) รับแรงกด-ดึงแนวตรงได้ดี โครงสร้างมั่นคง เสาโครงสร้าง, งานเหล็กดัด, เฟอร์นิเจอร์, งานตกแต่ง

วิธีเลือกเหล็กเพลาให้เหมาะกับงาน

การเลือกเหล็กเพลาไม่ได้ดูเพียงแค่ “ขนาดใหญ่–เล็ก” เท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาหลายปัจจัยประกอบกัน เพราะเหล็กเพลาถือเป็นวัสดุที่เกี่ยวข้องกับ ความปลอดภัย ความทนทาน และต้นทุนการผลิต หากเลือกผิดประเภทอาจทำให้สิ้นเปลือง หรืองานออกมาไม่มีคุณภาพได้

  1. ประเภทงาน (Type of Application)
    • งานโครงสร้างทั่วไป เช่น งานเสา งานรั้ว งานโครงเหล็ก → ใช้เหล็กเพลาเกรดมาตรฐานทั่วไป (เช่น SS400) ก็เพียงพอ
    • งานเครื่องจักร / ชิ้นส่วนที่ต้องรับแรงหมุน เช่น เพลาขับ เฟือง ลูกกลิ้ง → ต้องใช้เหล็กเพลาเกรดพิเศษ (เช่น S45C, SCM440) ที่ผ่านการอบชุบแข็ง เพื่อให้ทนแรงสึกหรอและแรงบิด
    • งานที่ต้องทนต่อการกัดกร่อน เช่น งานกลางแจ้ง หรืองานสัมผัสสารเคมี → ควรเลือกเหล็กเพลาสแตนเลส (Stainless Round Bar)
  2. ความแข็งแรงที่ต้องการ (Mechanical Properties) เหล็กแต่ละเกรดจะมีค่าความแข็งแรงที่ต่างกัน โดยค่าที่ควรพิจารณา เช่น
    • Yield Strength → ค่าความต้านทานแรงดึงสูงสุดก่อนที่เหล็กจะเสียรูปถาวร
    • Tensile Strength → ค่าความต้านทานแรงดึงสูงสุดก่อนที่เหล็กจะขาด
    • Hardness → ความแข็งผิวที่สัมพันธ์กับความทนทานต่อการสึกหรอ

    ตัวอย่าง: งานเฟืองหรือเพลาขับ ต้องเลือกเหล็กที่มี Tensile Strength สูงกว่า 600 MPa ขึ้นไป เพื่อให้ทนแรงบิดและแรงหมุนได้

  3. ขนาดและความยาว (Size & Length)
    • ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง (สำหรับเพลากลม) หรือด้านสี่เหลี่ยม (สำหรับเพลาสี่เหลี่ยมตัน) ต้องสอดคล้องกับน้ำหนักและแรงที่งานจะรับ
    • ความยาวมาตรฐานของเหล็กเพลาคือ 6 เมตร แต่สามารถสั่งตัดได้ตามต้องการ เพื่อลดเศษวัสดุและประหยัดต้นทุน
    • สำหรับงานเครื่องจักร ควรเลือกขนาดที่ “เผื่อการกลึง” เล็กน้อย เพื่อให้ได้ผิวงานที่แม่นยำ
  4. มาตรฐานการผลิต (Standards)
    การเลือกซื้อจากผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าที่ได้มาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้มั่นใจว่าเหล็กมีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุจริง เช่น

    • มอก. (มาตรฐานอุตสาหกรรมไทย) → มั่นใจได้ว่าเหมาะกับงานโครงสร้างและงานทั่วไป
    • JIS (Japanese Industrial Standards) → ได้รับความนิยมในงานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เน้นความแม่นยำสูง
    • ASTM (American Society for Testing and Materials) → นิยมใช้ในงานโครงการและเครื่องจักรสากล มีมาตรฐานสูง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเหล็กเพลากลม

Q1: เหล็กเพลากลมใช้ทำอะไรบ้าง?
A: เหล็กเพลากลมเหมาะกับงานที่ต้องการความแข็งแรงและการหมุน เช่น เพลาขับ เฟือง ลูกปืน ลูกกลิ้ง และชิ้นส่วนเครื่องจักร รวมถึงงานโครงสร้างที่ต้องการความทนทาน

Q2: เหล็กเพลากลมรีดร้อนต่างจากรีดเย็นอย่างไร?
A: แบบรีดร้อน (Hot Rolled) ผิวจะหยาบกว่า แต่แข็งแรงและราคาย่อมเยา ส่วนแบบรีดเย็น (Cold Drawn) ผิวเรียบตรง ขนาดแม่นยำ เหมาะกับงานกลึง งานที่ต้องการความละเอียดสูง

Q3: ความยาวมาตรฐานของเหล็กเพลากลมกี่เมตร?
A: โดยทั่วไปคือ 6 เมตร แต่สามารถสั่งตัดตามความต้องการ เพื่อความสะดวกในการใช้งานและลดเศษวัสดุ

Q4: เลือกเหล็กเพลากลมอย่างไรให้เหมาะกับงานเครื่องจักร?
A: ต้องเลือกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางให้รับแรงบิดได้เพียงพอ และควรเลือกเกรดพิเศษ เช่น S45C หรือ SCM440 ที่ผ่านการอบชุบแข็งเพื่อเพิ่มความทนทาน

H4: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเหล็กเพลาสี่เหลี่ยม

Q1: เหล็กเพลาสี่เหลี่ยมตันใช้ทำอะไร?
A: นิยมใช้ในงานโครงสร้าง เช่น เสา รั้ว งานตกแต่ง งานเหล็กดัด รวมถึงงานเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการความแข็งแรง

Q2: ขนาดไหนที่นิยมใช้บ่อยที่สุด?
A: ขนาดเล็ก (เช่น 12×12 มม. หรือ 1/2″) ใช้กับงานตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ ส่วนขนาดกลางถึงใหญ่ (1″ – 5″) นิยมใช้ในงานโครงสร้าง เสา และงานอุตสาหกรรมหนัก

Q3: เหล็กเพลาสี่เหลี่ยมตันต่างจากเหล็กเพลากลมอย่างไร?
A: เพลากลมเหมาะกับงานหมุนและชิ้นส่วนเครื่องจักร ส่วนเพลาสี่เหลี่ยมเหมาะกับงานที่ต้องรับแรงกด-แรงดึงตรง ๆ และงานโครงสร้างที่ต้องการความมั่นคง

Q4: เหล็กเพลาสี่เหลี่ยมตันขายยาวเท่าไร?
A: ความยาวมาตรฐานคือ 6 เมตร เช่นเดียวกับเหล็กเพลากลม และสามารถสั่งตัดตามขนาดได้ตามความต้องการของลูกค้า

เหล็กเพลาเป็นวัสดุที่มีบทบาทสำคัญทั้งในงานเครื่องจักรและงานโครงสร้าง การเลือกขนาดและเกรดที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อให้งานมีความแข็งแรง ปลอดภัย และใช้งานได้ยาวนาน หากคุณกำลังมองหา เหล็กเพลาคุณภาพ ได้มาตรฐาน มอก. และมีบริการจัดส่งทั่วประเทศ

ติดต่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ เหล็กเพลา หรือบริการตัด พับ เหล็ก ได้ทุกช่องทาง หรือโทรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของบริษัทได้โดยตรง พร้อมดูแลทุกโครงการด้วยความจริงใจและมืออาชีพ

บริษัท ก.ธนวัฒน์ สตีล เซนเตอร์ จำกัด
โทร : 081-917-2808062-229-1132
Line : @KTSSTEEL